...

Privacy Policy

THAI DIGITAL MAP CO.,LTD.


Last modified: April 12, 2022.

นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)

บริษัท ไทย ดิจิทัล แมพ จำกัด ( “บริษัท” ) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า/คู่ค้าทางธุรกิจ ประกอบกับบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ประกอบการที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะบอกทางเลือกของท่านและการดำเนินการของบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัท

การใช้บริการของบริษัทอาจเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลของท่าน (ตามที่กำหนดไว้ในหัวข้อ “ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและบริษัทเก็บรวบรวมอย่างไร” ด้านล่างนี้) บนบริการของบริษัท (รวมถึงเว็บไซต์และโมบายแอพพลิเคชั่นของบริษัท) ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นที่ท่านจะต้องเข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้ดำเนินการอย่างไรและท่านจะสามารถควบคุมได้อย่างไร ดังนั้น ขอให้ท่านกรุณาอ่านนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วยความระมัดระวัง

ช่องทางการติดต่อบริษัท

ในกรณีที่ท่านประสงค์จะติดต่อบริษัทเกี่ยวกับนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว กรุณาติดต่อบริษัทได้ที่เจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของบริษัททางอีเมล์ tdm@tdm.in.th แผนกดูแลข้อมูลส่วนบุคคล โทร 02-022-4994 ต่อ 2 หรือผ่านทางไปรษณีย์มาที่ เลขที่ 63/4 ชั้น 5 ซอยสุขุมวิท 68 ถนนสุขุมวิท แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 (ส่งถึง แผนกกฎหมาย (ด้านข้อมูลส่วนบุคคล))

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อาจถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ โดยขึ้นอยู่กับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประกาศบังคับใช้ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมวิธีการใช้ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้นี้ส่งผลกระทบต่อท่าน ท่านจะได้รับการติดต่อผ่านช่องทางที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น บริษัทอาจจะแจ้งเตือนให้ท่านทราบอย่างชัดเจนบนหน้าระบบบริการ หรือส่งอีเมล์ให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นต้น

1. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร

ในการให้บริการของบริษัทจะเก็บรวบรวม เก็บรักษาและใช้ข้อมูลของท่านดังต่อไปนี้
     “ข้อมูล” ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่มิใช่ข้อมูลส่วนบุคคล
     “ข้อมูลส่วนบุคคล” ได้แก่ ข้อมูล หรือการรวมกันของข้อมูลซึ่งเกี่ยวกับท่านและสามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้ โดยที่ข้อมูลส่วนบุคคล อาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้
• ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทเมื่อมีการเปิดใช้บริการของบริษัท เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลแอดเดรส เลขที่บัญชีธนาคาร เป็นต้น
• ข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกันกับผู้อื่นที่ใช้บริการของบริษัทที่ได้จัดส่งให้แก่บริษัท เช่น ข้อมูลที่ระบุในกระทู้ที่มีการตั้ง และการติดต่อสื่อสารกับท่านและผู้อื่นที่ใช้บริการของบริษัท
• ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากการที่ท่านใช้บริการของบริษัท เช่นข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่บางแห่ง ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ และข้อมูลสาธารณะ
     “ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่” ได้แก่ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่ของท่าน (เมื่อท่านมีการเปิดใช้บริการเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่) ซึ่งรวมถึง:
• ตำแหน่งพื้นที่ของอุปกรณ์ของท่านเมื่อท่านใช้บริการของบริษัท เช่น ข้อมูลจาก GPS Wi-Fi เข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหวอื่นในอุปกรณ์ของท่าน
• ไอพีแอดเดรสของอุปกรณ์หรือบริการทางอินเตอร์เน็ตที่ท่านใช้ในการเข้าถึงบริการของบริษัท
• ข้อมูลอื่นๆ ที่ท่านจัดส่งให้กับบริษัทหรือบุคคลอื่น ซึ่งทำให้สามารถระบุตำแหน่งของท่าน หรือสถานที่ที่ท่านอยู่ได้ และข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกันที่ท่านหรือบุคคลอื่นระบุ ซึ่งสามารถบ่งชี้ตำแหน่งพื้นที่ของท่านได้ เช่น ข้อมูลพิกัดตำแหน่งที่ได้ติดตั้งอยู่ในรูปภาพที่ท่านส่งมายังบริษัท
• ในกรณีที่ท่านได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่ของท่านให้กับบริษัทไว้ก่อนหน้านี้ และประสงค์จะให้บริษัทลบข้อมูลดังกล่าวออก ท่านสามารถดำเนินการได้ผ่านทางบริการของบริษัท
     “ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการ” ได้แก่ ข้อมูลทางเทคนิคที่บริษัทมีการเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติเมื่อท่านใช้บริการของบริษัท ไม่ว่าจะผ่านทางการใช้งานหรือทางคุกกี้ (ตามที่จะมีการอธิบายในรายละเอียดใน นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้) ตำแหน่งพื้นที่ของท่าน หรือข้อมูลอื่นๆ ซึ่งรวมถึง:
• ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่าน ข้อมูลการตั้งค่าที่ส่งให้แก่บริษัทโดยเว็บเบราเซอร์หรือโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งท่านใช้ในการเข้าถึงบริการของบริษัท ไอพีแอดเดรสของท่าน เวอร์ชั่นและเลขทะเบียนของอุปกรณ์ของท่าน
• ข้อมูลเกี่ยวกับการสืบค้นและการรับชมในขณะที่ท่านใช้บริการของบริษัท เช่น คำสืบค้นที่ได้ใช้ บัญชีโซเชียลมีเดียที่ท่านเข้าชม ข้อมูลและเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเข้าถึงหรือมีการส่งคำร้องขอจากท่านในการใช้บริการของบริษัท
• ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร ซึ่งท่านใช้ในบริการของบริษัท เช่น บุคคลซึ่งท่านได้มีการติดต่อสื่อสารด้วย และเวลา รวมถึง ระยะเวลาที่ท่านติดต่อสื่อสารด้วย และข้อมูลกำกับ (metadata) ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรายการที่ท่านได้ใช้ผ่านบริการของบริษัท เช่น วันที่ เวลา หรือตำแหน่งพื้นที่ ซึ่งรูปภาพหรือวีดีโอที่ได้ทำการแบ่งปันข้อมูลมานั้นได้ถูกทำขึ้นหรือโพสต์ไว้
• ตำแหน่งพื้นที่ของอุปกรณ์ที่ให้บริการ เมื่อท่านใช้บริการของบริษัท เช่น ข้อมูลจาก GPS Wi-Fi เข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหวอื่นในอุปกรณ์ของท่าน
     “ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล” ได้แก่ ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านแต่ไม่สามารถใช้ในการระบุตัวตนของท่านไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบของข้อมูลสรุปหรือไม่มีการเปิดเผยชื่อ หรือเป็นนามปากกา
     “ข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกัน” ได้แก่ข้อมูลเกี่ยวกับท่านหรือเกี่ยวข้องกับท่านซึ่งได้มีการแบ่งปันในบริการ ของบริษัทอย่างสมัครใจ รวมถึงการโพสต์ข้อมูลซึ่งท่านใช้ในบริการของบริษัท (รวมถึงโปรไฟล์สาธารณะของท่านและรายการที่ท่านสร้างขึ้น) ข้อมูลการโพสต์ของบุคคลอื่น ซึ่งท่านได้นำไปโพสต์ซ้ำรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่และข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์ดังกล่าว ทั้งนี้ข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกันยังรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับท่าน (ยังรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่และข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการ) ซึ่งผู้อื่นที่ได้ใช้บริการของบริษัทได้แบ่งปันข้อมูลดังกล่าวเกี่ยวกับท่าน

2. บริษัทใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร

บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
• เพื่อให้บริการของบริษัทแก่ท่าน
• เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ลูกค้า ความปลอดภัย และการสำรองข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท
• เพื่อการโฆษณาแก่ท่าน
• เพื่อใช้ในการทำความเข้าใจให้ดีว่าท่านเข้าถึงและใช้บริการของบริษัทอย่างไร และเพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงบริการของบริษัท รวมถึงการดำเนินการตามความประสงค์และความชื่นชอบของท่านอีกทั้งเพื่อการปรับแต่งภาษาและตำแหน่งพื้นที่ การให้ความช่วยเหลือและการชี้แจ้งที่ทำให้เป็นลักษณะส่วนบุคคล หรือการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของท่านและลูกค้ารายอื่น ๆ
• เพื่อช่วยบริษัทพัฒนาบริการใหม่ๆ และปรับปรุงบริการที่มีอยู่แล้ว
• เพื่อทำให้การปรับปรุงโฆษณาและการทำกิจกรรมทางการตลาด กิจกรรมทางการส่งเสริมการขายที่มีอยู่ หรือเกี่ยวข้องกับบริการของบริษัทเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
• เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบซอฟต์แวร์หรือบริหารการปรับปรุงซอฟต์แวร์
• เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมในการสำรวจและกิจกรรมอื่นๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
• เพื่อใช้เป็นข้อมูลและเอกสารประกอบการดำเนินงานใดๆ กับธนาคาร สถาบันการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานภายนอกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

โปรดสังเกตว่าบริษัทนำข้อมูลของท่านไปใช้ในกระบวนการที่บริษัทจะให้บริการแก่ผู้ใช้ เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า หรือเพื่อปรับปรุงบริการของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคล (ในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้) ที่ได้เก็บรวบรวมผ่านบริการใดๆ ของบริษัท

3. สิทธิของท่าน

ท่านอาจมีสิทธิภายใต้กฎหมายไทย หรือกฎหมายอื่นในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และร้องขอที่จะแก้ไข ลบ หรือจำกัดการใช้ข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ ร้องขอให้ถ่ายโอนไป หรือเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการใช้สิทธิของท่านด้านล่างนี้

บริษัทจะเคารพสิทธิของท่านภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ภายใต้กฎหมายไทย และอาจมีสิทธิที่เหมือนกันนี้ภายใต้กฎหมายอื่นๆ
• สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะเขียนคำร้องเพื่อขอทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บ และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บไว้
• สิทธิในการขอแก้ไข กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
• สิทธิในการลบข้อมูล (สิทธิที่จะถูกลืม) คือ สิทธิในการที่จะลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากบริการ
• สิทธิในการอนุญาตให้ใช้อย่างจำกัด กล่าวคือ สิทธิที่จะร้องขอให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างจำกัดตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เฉพาะ
• สิทธิในการยกเลิกประชาสัมพันธ์ด้านการตลาด
• สิทธิในการคัดค้าน กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือในกรณีที่บริษัทให้ท่านทราบถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบสิทธิตามกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก
• สิทธิในการร้องขอให้ถ่ายโอน คือ สิทธิที่จะร้องขอให้ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไปยังผู้ให้บริการอื่น หรือบริการอื่น
• สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม คือ สิทธิที่ท่านจะเพิกถอนความยินยอม ณ เวลาใดๆ ที่ท่านเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้แก่บริษัทในการใช้จัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถ้าท่านเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัท จะไม่ส่งผลถึงการใดๆ ก่อนหน้าที่บริษัทได้ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอ้างสิทธิตามกฎหมาย

สิทธิดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่สิทธิเด็ดขาดและไม่สามารถปรับใช้ได้ทุกกรณี

ในการตอบสนองคำร้องขอ บริษัทอาจจะร้องขอให้ท่านยืนยันตัวตนหากจำเป็น และจัดหาข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทเข้าใจคำร้องขอของท่านมากยิ่งขึ้น หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอของท่านได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลดังกล่าว

ในการใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อผู้ดูแลข้อมูลส่วนบุคคลตามช่องทางการติดต่อที่แจ้งไว้ทางด้านบน

4. คุกกี้ และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน

กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมในนโยบายเกี่ยวกับคุกกี้ของบริษัท ในเรื่องที่เกี่ยวกับว่าบริษัทใช้คุกกี้

5. การโฆษณาและการตลาด

บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล โทรศัพท์ ข้อความ หรือสื่อออนไลน์ เป็นต้น

6. การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น

นอกจากที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ในนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ในกรณีอื่นๆ บริษัทจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกไม่ว่าเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ใดๆ ก็ตาม บริษัทอาจนำข้อมูลของท่านไปแบ่งปันกับบริษัทอื่นๆ ภายในกลุ่ม รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมทุนและผู้ให้บริการภายนอก ผู้รับเหมา และตัวแทน (เช่น ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารข้อมูลซึ่งจะจัดส่งอีเมล หรือการแจ้งข้อมูลในนามของบริษัท ผู้ให้บริการในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งให้ความช่วยเหลือในด้านธุรกิจและการโฆษณาเกี่ยวกับบริการของบริษัท) นอกจากนี้บริษัทอาจอนุญาตให้บุคคลอื่นเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้บริการของบริษัทโดยในแต่ละกรณีบริษัทจะอนุญาตให้มีการใช้ข้อมูลของท่าน และ/หรือเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) ให้บริการแก่ท่าน
(2) ช่วยเหลือบริษัทเกี่ยวกับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหัวข้อ ”บริษัทใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร” ข้างต้น
(3) ดำเนินการตามข้อผูกพัน และการบังคับใช้สิทธิของบริษัทภายใต้ข้อกำหนดการใช้บริการ หรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือ
(4) ธุรกิจของบริษัทซึ่งรวมไปถึงการนำข้อมูลไปใช้เพื่อให้บริษัทสามารถทำความเข้าใจและปรับปรุงการบริการของบริษัท

ในกรณีที่บริษัทอนุญาตให้บุคคลอื่นเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในวรรค ก่อนบริษัทจะดำเนินการตามสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลอื่นเหล่านั้นจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในเรื่องดังต่อไปนี้เท่านั้น
(1) เป็นไปโดยสอดคล้องกับนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
(2) อยู่ภายใต้บังคับของคำสั่งอื่น ๆ ที่บริษัทได้กำหนดและแจ้งให้แก่บุคคลข้างต้นได้รับทราบรวมถึงนำมาตรการที่เหมาะสมที่บริษัทใช้ในการ รักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลไปปฏิบัติด้วย ท่านให้ความยินยอมแก่บุคคลอื่นตามที่ระบุไว้เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปแบ่งปันหรือโอนให้กับผู้อื่น (รวมทั้งกรณีที่อยู่ในและอยู่นอกเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่าน) ตามที่ได้ระบุไว้ในหัวข้อ “การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น”

เนื่องจากบริษัทได้มีการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นบริษัทอาจถูกโอนให้กับบุคคลอื่นหรือมีการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มของบริษัทได้ โดยในกรณีเช่นว่านี้อาจทำให้มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างภายในกลุ่มของบริษัท และ/หรือไปยังบุคคลภายนอก ซึ่งจะเป็นผู้ให้บริการของบริษัท หรือที่คล้ายคลึงกับบริการของบริษัทตามนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวอื่นๆ ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีสำนักงานตั้งอยู่หรือนำข้อมูลของท่านไปใช้นอกเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่าน

ท่านตกลงว่าบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องคงไว้ เก็บรักษาหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(1) เพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
(2) เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งศาล หมายศาลหรือกระบวนการในทางกฎหมายอื่น ๆ
(3) เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานอื่นใดในทำนองเดียวกัน (ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่านหรือที่อื่นก็ตาม) หรือ
(4) ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นอันสมควรที่จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ท่านตกลงว่าบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อบังคับใช้เงื่อนไขเกี่ยวกับการให้บริการหรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อความมุ่งหมายในการปกป้องสิทธิ ทรัพย์สินหรือความปลอดภัยของบริษัท หรือผู้ใช้บริการของบริษัทรายอื่น ๆ

ในกรณีที่บริษัทอนุญาตให้บุคคลอื่นเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในวรรค ก่อนบริษัทจะดำเนินการตามสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลอื่นเหล่านั้นจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในเรื่องดังต่อไปนี้เท่านั้น
(1) เป็นไปโดยสอดคล้องกับนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
(2) อยู่ภายใต้บังคับของคำสั่งอื่น ๆ ที่บริษัทได้กำหนดและแจ้งให้แก่บุคคลข้างต้นได้รับทราบรวมถึงนำมาตรการที่เหมาะสมที่บริษัทใช้ในการ รักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลไปปฏิบัติด้วย ท่านให้ความยินยอมแก่บุคคลอื่นตามที่ระบุไว้เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปแบ่งปันหรือโอนให้กับผู้อื่น (รวมทั้งกรณีที่อยู่ในและอยู่นอกเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่าน) ตามที่ได้ระบุไว้ในหัวข้อ “การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น”

เนื่องจากบริษัทได้มีการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นบริษัทอาจถูกโอนให้กับบุคคลอื่นหรือมีการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มของบริษัทได้ โดยในกรณีเช่นว่านี้อาจทำให้มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างภายในกลุ่มของบริษัท และ/หรือไปยังบุคคลภายนอก ซึ่งจะเป็นผู้ให้บริการของบริษัท หรือที่คล้ายคลึงกับบริการของบริษัทตามนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวอื่นๆ ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีสำนักงานตั้งอยู่หรือนำข้อมูลของท่านไปใช้นอกเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่าน ท่านตกลงว่าบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องคงไว้ เก็บรักษาหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(1) เพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
(2) เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งศาล หมายศาลหรือกระบวนการในทางกฎหมายอื่น ๆ
(3) เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานอื่นใดในทำนองเดียวกัน (ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่านหรือที่อื่นก็ตาม) หรือ
(4) ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นอันสมควรที่จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ท่านตกลงว่าบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อบังคับใช้เงื่อนไขเกี่ยวกับการให้บริการหรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อความมุ่งหมายในการปกป้องสิทธิ ทรัพย์สินหรือความปลอดภัยของบริษัท หรือผู้ใช้บริการของบริษัทรายอื่น ๆ

7. การติดต่อสื่อสารจากบริษัท

จดหมายข่าวและการติดต่อสื่อสารในรูปแบบอื่น เมื่อท่านใช้บริการของบริษัท บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดส่งอีเมลจดหมายข่าว หรือการแจ้งข้อมูลมายังอุปกรณ์ของท่านได้ ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์จะได้รับการติดต่อสื่อสารดังกล่าวอีกต่อไป ท่านสามารถกระทำได้โดยการปฏิบัติตามรายละเอียดของการยกเลิกการรับข้อมูลตามที่ปรากฏอยู่ในอีเมลที่บริษัทจัดส่งให้แก่ท่าน หรือทำการปิดระบบการแจ้งเตือนที่อยู่ในอุปกรณ์ของท่าน (ในกรณีที่สามารถทำได้) หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของบริษัท

ประกาศที่เกี่ยวกับบริการ

บริษัทอาจจะจัดส่งประกาศที่เกี่ยวกับบริการให้แก่ท่านเป็นครั้งคราวเมื่อบริษัทเห็นว่ามีความจำเป็นที่ จะต้องดำเนินการในเรื่องนั้น (เช่น การระงับการให้บริการเป็นการชั่วคราวในบริการใดบริการหนึ่งเพื่อการบำรุงรักษา) ซึ่งท่านจะไม่สามารถทำการเลือกเพื่อปิดการรับประกาศเกี่ยวกับบริการดังกล่าวนี้ซึ่งมิได้มีเนื้อหาเป็นการประชาสัมพันธ์แต่งอย่างใด

8. ข้อพิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญ (Sensitive Personal Information)

ในเขตอำนาจศาลบางแห่งข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ศาสนา ความเชื่อในเรื่องปรัชญา หรือข้อมูลด้านสุขภาพถูกกำหนดให้เป็น ”ข้อมูลสำคัญ” และอยู่ภายใต้บังคับของกฎ ระเบียบที่มีความเข้มงวดมากกว่าข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีอื่นๆ ทั้งนี้โปรดสังเกตว่าเนื้อหาและข้อมูลที่ท่านได้ใช้ในบริการของบริษัท เช่น รูปภาพ หรือข้อมูลกิจกรรมทางสังคมของท่านอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญของท่านให้แก่บุคคลอื่นทราบได้

โปรดสังเกตว่าบริษัทมิได้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาใดๆ แก่ท่าน

บริษัทขอให้ท่านพิจารณาว่าการสื่อสารข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญในบริการของบริษัทเป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมหรือไม่

9. บริการของบุคคลอื่นที่รวมอยู่ในบริการของบริษัท

บริการของบริษัทอาจมีข้อมูล หรืออาจมีการเชื่อมต่อท่านไปยังข้อมูลเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียหรือบริการอื่นๆ (รวมถึงเว็บไซต์) ของผู้อื่นได้ ตัวอย่างเช่น
• ในบางกรณีท่านสามารถที่จะแบ่งปันเนื้อหาของท่านในบริการของบริษัทผ่านทางบริการของบุคคลอื่น ซึ่งบุคคลอื่นที่จัดให้มีบริการดังกล่าวอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านและข้อมูลส่วนตัวของท่าน (รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการ) เพื่อให้บริการของบุคคลภายนอกสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และ
• บริษัทอาจจะ (ไม่ว่าจะอยู่ในโฆษณาหรืออยู่ในส่วนอื่นในบริการของบริษัทก็ตาม) จัดส่งลิ้งค์ให้แก่ท่านเพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงบริการหรือเว็บไซต์ของบุคคลอื่นนั้นได้
บริการโซเชียลมีเดีย หรือบริการอื่นๆ ของผู้ให้บริการภายนอกเหล่านี้อาจเป็นการให้บริการโดยบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องหรือโดยบริษัทก็ได้การใช้บริการภายนอกข้างต้น (ไม่ว่าจะเป็นบริการโซเชียลมีเดีย หรือบริการอื่นใดก็ตาม) รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมีการส่งให้กับบุคคลภายนอกดังกล่าวจะอยู่ภายใต้บังคับของเงื่อนไขการให้บริการ และนโยบายในความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องของบุคคลภายนอกนั้นๆ และข้อกำหนดการใช้บริการ ของบริษัทหรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะไม่นำไปใช้บังคับ ดังนั้นกรุณาพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ของผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าวอย่างรอบคอบ

นโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะใช้บังคับกับข้อมูลที่บริษัทเป็นผู้เก็บรวบรวมเท่านั้นและจะไม่นำไปใช้บังคับกับบริการของผู้ให้บริการภายนอก หรือวิธีดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลของผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว และบริษัทจะไม่มีความรับผิดในการที่ผู้ให้บริการภายนอกนำข้อมูลของท่านไปใช้แต่อย่างใด

10. การถ่ายโอนระหว่างประเทศ

บริการนี้ถูกควบคุมกำกับดูแลและดำเนินการภายใต้กฎหมายของราชอาณาจักรไทย หากท่านอยู่นอกพื้นที่ราชอาณาจักรไทย ถือว่าท่านได้ใช้บริการนี้ด้วยความเสี่ยงของตัวท่านเอง โดยที่บริษัท ไทย ดิจิทัล แมพ จำกัด อาจมีความจำเป็นที่จะต้องถ่ายโอนข้อมูลของท่านระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลของท่านจะถูกถ่ายโอนไปยังและจัดการอยู่ในราชอาณาจักรไทยที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลของบริษัท และท่านรับทราบว่าการปกป้องข้อมูลและกฎหมายอื่นของต่างประเทศที่ไม่ใช่ประเทศของท่าน เช่น ราชอาณาจักรไทย อาจมีความคุ้มครองหรือมาตรฐานการคุ้มครองน้อยกว่าที่มีอยู่ในประเทศของท่าน และท่านยินยอมให้เก็บข้อมูล ดำเนินการและถ่ายโอนข้อมูลของท่านตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวและกฎหมายราชอาณาจักรไทยสำหรับการใช้บริการนี้ นอกจากนี้บริษัทจะทำตามขั้นตอนตามกฎหมายอย่างเหมาะสมเพื่อที่จะมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกจัดการ รักษา และถ่ายโอนอย่างปลอดภัย ในบางกรณีบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังสำนักงานใหญ่ หรือบุคคลภายนอก ในพื้นที่นอกเหนือจากประเทศของท่าน

11. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

บริษัทมีการวางโครงสร้างทั้งทางกายภาพ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และกระบวนการบริหารจัดการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และเพื่อใช้ข้อมูลที่บริษัทเก็บมาได้อย่างถูกต้อง การรักษาความปลอดภัยเหล่านี้มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความสำคัญของข้อมูลที่บริษัทได้มาหรือจัดเก็บไว้

ในบางกรณีบริษัทอาจใช้เทคโนโลยีในการเข้ารหัส (เช่น ระบบเอสเอสแอล) เพื่อคุ้มครองข้อมูลที่มีความสำคัญบางอย่างซึ่งท่านจัดส่งให้แก่บริษัท ทั้งนี้ขอให้ท่านโปรดรับทราบด้วยว่าไม่ว่าบริษัทจะใช้ความพยายามในการดำเนินการเพียงใด แต่ยังไม่มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลใดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ 100% ตลอดเวลา โดยที่ระบบและเครือข่ายในการสื่อสารของบริษัท ซึ่งเชื่อมต่อท่านในการเข้าถึงบริการของบริษัทอาจเกิดกรณีที่มีการละเมิดมาตรการในด้านการรักษาความปลอดภัยและมีความผิดพลาดซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมตามสมควรของบริษัท

12. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และเก็บนานเท่าไหร่

ภายใต้บังคับของหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในหัวข้อ “การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น” ข้างต้น) บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหัวข้อ “บริษัทใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร” ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น

บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นไปตามระยะเวลาการเก็บรักษาและความจำเป็นในการใช้ข้อมูลของบริษัท ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ข้อกำหนดการเก็บรักษาข้อมูลสำหรับคำนวณเวลาการเก็บรักษาข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่าง

บริษัท ไทย ดิจิทัล แมพ จำกัด มีฝ่ายดูแลและจัดเก็บข้อมูลที่ทำงานร่วมกับฝ่ายดูแลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อที่จะพัฒนาปรับปรุงนโยบายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทมีข้อกำหนดการเก็บรักษาข้อมูลเป็นไปตามแต่ละแผนธุรกิจ ประกอบไปด้วย รูปแบบของธุรกิจ รูปแบบการบันทึก และรูปแบบการจัดเก็บ

บริษัทคำนวณระยะเวลาการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามกฎเกณฑ์ดังต่อไปนี้
– ระยะเวลาที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ
– เมื่อท่าน (หรือบุคคลอื่นที่ให้ท่านเข้าถึงบริการของบริษัท) หยุดการใช้บริการของบริษัท
– ระยะเวลาตามสมควรในการจัดเก็บที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทได้ทำตามหน้าที่และข้อตกลงต่างๆ
– ภายในระยะเวลาที่จำกัดที่อาจมีข้อเรียกร้องเกิดขึ้น
– ภายในระยะเวลาการเก็บรักษาที่สอดคล้องกับกฎหมายหรือได้รับการแนะนำจากผู้ควบคุม ผู้ออกกฎเกณฑ์ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือองค์กรรัฐ
– หรือความจำเป็นที่ต้องมีอยู่เพื่อการให้บริการใดๆ แก่ท่าน